top of page

Pinduoduo : E-commerce จีนน้องใหม่พุ่งเเรงที่น่าจับตามอง


ถ้าพูดถึงตลาดการซื้อของออนไลน์(E-commerce) เราคงจะมองว่ามันเป็นตลาดที่ดุเดือดมาก เเละยากต่อการที่จะมีเจ้าใหม่ๆขึ้นมากินส่วนแบ่งตลาดใหญ่ๆได้ ซึ่งถ้าเป็นในไทย เราคงไม่คิดว่าจะมีบริษัทไหนพุ่งขึ้นมาวัดระดับ Shopee หรือ Lazada ในช่วงนี้เเน่ๆ เเต่ทว่าในจีนกลับมีบริษัท startup หนึ่งที่มีชื่อว่า "Pinduoduo" (พินดูโอ่ดูโอ่) ทำลายกำเเพงเหล่านี้ขึ้นมากินส่วนแบ่งของตลาด e-commerce ของยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง Taobao/Tmall (ของ Alibaba) หรือ JD central (ของ Tencent) ได้ โดพใช้เวลาเพียง 2 ปีสามารถทำยอดขายรวม (GMV) อยู่ที่ 14.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 ขณะที่ Taobao ใช้เวลา 5 ปี เเละ JD ใช้เวลา 10 ปีในการทำให้ถึงตัวเลขนั้นได้ วันนี้ ThaiTechTalk จึงอยากนำทุกท่านมารู้จักกับเจ้าบริษัท Pinduoduo ตัวนี้กันครับ


ย้อนกลับไปไม่นานในช่วงปี 2015 บริษัท pinduoduo ได้ถูกก่อตั้งโดย คอลลิน ฮว่อง (Colin Huang) อดีตวิศวกรหนุ่มอัจฉรินะจาก google ผู้บุกเบิกการใช้ search engine ใน e-commerce ซึ่งนอกจากเคยทำงานให้กับ google เจ้าตัวยังเป็นผู้ประกอบการต่อเนื่อง(Serial entrepreneur)โดยก่อตั้งบริษัท Ouku.com : e-commerce ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ , Leqi : e-commerce ของบริษัท Wechat ที่เน้นการใช้เล่นเกมมาช่วยในการขาย จากประวัติทั้งหมดนั้นจะสังเกตได้ว่า คอลลินมีประสบการณ์ทางด้าน E-commerce มาอย่างเข้มข้นเลยทีเดียว


เเล้ว Pinduoduo เเต่งต่างจาก e-commerce ทั่วๆไปอย่างไร ?


1.) ฟังค์ชั่นการซื้อขายเป็นกลุ่ม (Group Buying) : จริงๆเเล้วถ้าแปลชื่อบริษัท Pinduoduo จะแปลว่า "ซื้อด้วยกัน ถูกกว่า" นั้นคือ pinduoduo ชูเรื่องของการที่ผู้ซื้อสามารถชวนเพื่อนมาซื้อของร่วมกัน โดยตั้งเเต่ 2 คนขึ้นไป โดยยิ่งชวนได้มากเท่าไหร่ของยิ่งถูกขึ้นเท่านั้น ซึ่งบางครั้งถูกกว่าราคาเต็มถึง 90% เลยทีเดียว ! ซึ่งวิธีนี้นอกจะทำให้ผู้ใช้ในระบบเพิ่มขึ้นยังทำให้ ผู้ขายสามารถขายได้ในจำนวนหลายชิ้นต่อครั้งมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งสินค้าส่วนมากในกลุ่มนี้จะเน้นเป็นสินค้าไม่มีแบรนด์เเต่ราคาถูก นั้นก็ทำ


2.) หน้าตาเเละลูกเล่นในการใช้แอพที่ไม่ซ้้ำใคร (Unique User Experience) : ด้วยประสบการณ์ของ คอลลินในเเวดวง โซเชี่ยลมีเดียเเละเกมอย่าง WeChat ของเขาทำให้การออกแบบแอพ e-commerce ของเขามีการทำให้เหมือนผู้ใช้กำลังเล่น Facebook เมื่อชวนเพื่อนมาซื้อของเเละอ่านรีวิวสินค้า เเละมีการเก็บเเต้มส่วนลดเเละลุ้นรับรางวัลเหมือนกับการเล่มเกม ซึ่งวิธีในการผสมผสานการซื้อของเเละประสบการณ์นั้น เป็นสูตรสำเร็จที่ได้ผลมากๆในจีนเลยก็ว่าได้ในขณะนี้


3.) ระบบเเนะนำสินค้าที่เเม่นยำ (Hyper Personalized recommendation) : ซึ่งอย่างที่ทราบว่าคอลลินเคยทำงานในเเวดวง Search Engine ( ระบบค้นหา) มาก่อนประกอบกับระบบ social shopping นั้นทำให้ตัวแอพมีข้อมูลของเพื่อนๆของผู้ซื้อ เเละการประมวลผลเเนะนำที่เเม่นยำจ ส่งผลให้ผู้ซื้อรู้สึกเจอของที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย


4.) ชนิดสินค้าที่เยอะเเละการจัดส่งที่รวดเร็ว (Variety and Speed): Pinduoduo นั้นชูจุดเด่นในการเป็นการขายสินค้าแบบ Long Tail* นั้นของการขายสินค้าที่หลากหลายเเทบจะทุกชนิด ตั้งเเต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์/สินค้าประจำบ้านไปจนถึงสินค้าจำพวกอาหารเเละของสด ประกอบกับฟังค์ชั่นในการส่งสินค้าภายใน 48 ชั่วโมงทำให้ผู้ซื้อนึกถึงแอพ pinduoduo เป็นอันดับเเรกในการซื้อของออนไลน์


สุดท้ายนี้ถึงเเม้ว่า Pinduoduo ยังคงมีผลประกอบการที่คาดทุนเฉกเช่นเดียวกับ e-commerce เจ้าอื่นๆ เเต่ตัวบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในมุมของจำนวนผู้ใช้เเละรายได้ นั้นทำให้นักลงทุนยังให้ความเชื่อมั่นเเละลงทุนเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำนักข่าว CNBC ได้มีการคาดการณ์ว่า pinduoduo จะสามารถผลิกกลับมาสร้างกำไรได้ในช่วงต้นไตรมาสของปี 2022 ซึ่งอนาคตจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตาม เเต่ที่เเน่ๆ Pinduoduo คงจะต้องเป็นบริษัทที่น่าจับตามองในกลุ่มบริษัทจีนอย่างในอนาคตที่จะถึงอย่างเเน่นอนคับบ


(*Long Tail : คือ การไม่เจาะจงกลุ่มลูกค้า นั่นคือต้องการได้ลูกค้าทั้ง 100% โดยใช้ระบบไม่เว้นแม้แต่ตลาดนิช (Niche Market) ที่เล็กที่สุดที่อยู่ในส่วนหาง)


เขียนโดย Sam


อ้างอิง


ดู 6 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page