top of page

เบื้องหลังเเนวคิด ByteDance's สู่ตลาด Edtech


สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านจากที่หายไปนาน วันนี้ทาง ThaiTechTalk มีเรื่องราวของกลุ่มบริษัท ByteDance หรือที่เรามักรู้จักบริษัทลูกของเขาอย่าง TikTok ที่มีข่าวคราวสนับสนุนเงินลงทุนในกลุ่ม Startup ที่เป็น edtech (Educational tech-startup) เพิ่มถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐ เหตุการณ์นี้มีไอเดียอย่างไร bytedance จะสามารถสร้าง startup ที่ดังระเบิดแบบ tiktok ในตลาดนี้ได้หรือใหม่ ลองไปอ่านกันได้เลยคับบ


เชื่อว่าหลายท่านตอนเด็กๆหรืออาจจะเคยเห็นลูกหลานร้องห่มร้องไห้ กรีดร้องไม่อย่างเข้าโรงเรียนสอนพิเศษ เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นที่เกลียดการต้องไปเรียนพิเศษมาก เเต่นั้นก็ไม่สามารถขัดขวางเหล่าคุณพ่อเเม่ชาวเอเซียที่จะควักเงินมหาศาลเเละสมัครเรียนให้กับลูกๆของเขา ไม่ว่าจะเป็น คณิต วิทย์ ยันศิลปะ เเละการเเสดง เเละนับไม่ถ้วน ฉะนั้นเวลามีคนบอกว่าตลาด edtech จะมีผลตอบเเทนในการลงทุนไหม ผมคนหนึ่งเลยที่เชื่อว่ามี เพราะบริษัท Bytedance ก็เชื่อแบบนั้นครับ !!


Bytedance จริงๆเเล้วเริ่มเข้าสู่ตลาด edtech เมื่อสามปีเเล้วโดยเพิ่มจำนวณการลงทุนใน port เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีการย้ายผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทในเครือที่ประสบความสำเร็จจาก tiktok ลงมาคุมบังเหียนในกลุ่ม edtech อีกด้วยฉะนั้นต้องบอกเลยว่าเขาไม่ได้มองว่าเป็นตลาดเล่นๆ เเต่มองว่าเป็นโอกาศที่น่าสนใจอย่างมาก โดยขึ้นชื่อว่า bytedance ผู้ได้สโลเเกนว่า Move fast break things อยู่เเล้วภายใน 3 ปีตัวบริษัทได้ลงทุนไปเเล้วกว่า 20 ตัวที่เป็นธุรกิจด้านการศึกษา อธิเช่นแอพ platform สอนภาษา GoGoKid หรือที่เป็นข่าวกันใหญ่โตอย่าง Dali Education บริษัท hardware เพื่อการศึกษาที่เรียกได้ว่าเเต่ละชิ้นนี้ล้ำๆทั้งนั้น ประกอบกับสถานการณ์โรคระบาด เเละการเรียนออนไลน์นั้นก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เด็กๆหลายคนต้องโหลดแอพ เข้าเว็บ หรือเปิด zoom เรียนออนไลน์ ส่งผลให้ตลาด edtech เฉพาะในจีนนั้นพุ่งสูงขึ้นถึง 63.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ เเต่ถึงเเม้ตลาดจะดูมีอนาคตเเต่จากรายงาน กลุ่มบริษัททั้งหมดนั้นยังไม่สามารถที่จะทำผลกำไรอย่างนั้นประทับใจมากนัก(ในที่นี้คือ 10x) ซึ่งทาง bytedance ก็ทราบเรื่องนี้เเละออกมากล่าวว่ากลุ่ม edtech ของเขานั้นคงไม่มองว่าจะเป็นฐานรายได้สำคัญของการลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้าอย่างเเน่นอน โดยทางบริษัทมองว่าเมื่อ 3 ปีผ่านผู้เล่นที่วางโครงรากฐานได้ดี มีกลุ่มผู้ใช้บริการทั้งนักเรียน นักศึกษา เเละผู้ปกครองมากที่สุดจะสามารถยืดตลาดนีัได้อย่างราบคาบเเละจะสามารถทำกำไรได้ในที่สุดนั้นเอง


เรียกได้ว่าเป็นการขยับที่น่าสนใจของกลุ่ม Edtech ใน asia ที่น่าจับตามองเพราะเเม้กระทั้งในประเทศไทยเรานั้นก็มีหลาย startup ที่มองเห็นตลาดนี้เเละออกมารับเงินลงทุนจากกลุ่มนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น OpenDurian เเละ InsKru ก็ตาม เพราะถ้าผู้เรื่องการศึกษานอกจากจะเป็นกลุ่มอุตสหกรรมที่สร้างเงินเเล้วก็ยังเป็นเสมือนช่องทางในการพัฒนาการเข้าถึงการศึกษาของเด็กนักเรียนในประเทศอีกด้วย ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญอันดับต้นที่ต้องได้รับความสนใจเเละเเก้ไขอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย


เขียนโดย Sam


ปล.ขอบคุณทุกคนสำหรับ 16 like เเรกของเพจเล็๋กๆเพจนี้นะครับ ถ้าชอบกดไลค์เเละกดเเชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้มี content ออกมาเรื่อยๆได้นะครับบ

อ้างอิง

ดู 7 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page